ช่วยจำ เกณฑ์การประเมิน....


การประเมิน หมายถึง กระบวนการที่ให้ได้มาซึ่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อประกอบการตัดสินใจในการพัฒนางานต่าง ๆ โดยเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด

        เป้าของการประเมินหรือสิ่งที่มุ่งประเมิน
        สิ่งที่ต้องการประเมิน (Object of Evaluation) เป็นสิ่งที่ผู้ประเมิน มุ่งตัดสินคุณค่า ซึ่งมีหลายระดับ แต่ละระดับสัมพันธ์และเป็นองค์ประกอบซึ่งกันและกัน โดยมุ่งสู่สิ่งสูงสุดเดียวกัน คือ สังคม จุดมุ่งหมายของการประเมิน เป็นความคาดหวังจากการประเมิน 2 ลักษณะ คือ
        - วัตถุประสงค์ของการประเมิน หมายถึง สิ่งที่มุ่งหวังให้เกิดขึ้น หรือสิ่งที่ต้องจัดทำให้ปรากฏในการประเมิน ซึ่งได้แก่ "การตัดสินคุณค่า" ของสิ่งที่มุ่งประเมิน
        - เป้าหมายของการประเมิน หมายถึง จุดหมายปลายทางของการดำเนินงาน คือ "การพัฒนาคุณค่า" ของสิ่งที่มุ่งประเมิน

        บทบาทของการประเมิน
        ลักษณะความต้องการสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจของผู้บริหารเป็นตัวกำหนดบทบาทของการประเมิน (Role of Evaluation) ซึ่งสามารถจำแนกเป็นบทบาทที่สำคัญได้ 2 บทบาท คือ การเสนอสารสนเทศระหว่างการดำเนินงาน (Formative) และหลังสิ้นสุดการดำเนินงาน (Summative)

        ประเด็นการประเมิน ก็คือสิ่งที่จะบ่งชี้ว่าวัตถุประสงค์นั้นสำเร็จหรือไม่ เป็นการดูกว้าง ๆ ยังไม่ถึงตัวชี้วัด จากประเด็นจะโยงมาถึงตัวชี้วัด เกณฑ์ คือ ปริมาณหรือคุณภาพขั้นต่ำที่จะยอมรับได้ของแต่ละตัวชี้วัด หรืออาจกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า ตัวชี้วัด จะมาคู่กับสิ่งที่เรียกว่า เกณฑ์ (ศิริเดช สุชีวะ 2548: 175-177)

        ตัวชี้วัด
        ตัวชี้วัด หรือตัวบ่งชี้ (Indicator) ในภาษาไทยมีใช้อยู่หลายคำ เช่น ดัชนี ตัวบ่งชี้ ตัวชี้วัด เครื่องชี้วัด เป็นต้น
        หมายถึง สิ่งต่าง ๆ หรือลักษณะต่าง ๆ ที่ระบุถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในประเด็นที่ต้องประเมิน (สุวิมล ตริกานนท์ 2549: 86)
        หมายถึง ตัวประกอบ ตัวแปร หรือค่าที่สังเกตได้ ซึ่งใช้บ่งบอกสถานภาพหรือสะท้อนลักษณะการดำเนินงานหรือผลการดำเนินงาน
(ศิริชัย กาญจนวาสี 2545: 84)
        หมายถึง สิ่งที่บอกสภาพ หรือสภาวะในลักษณะใดลักษณะหนึ่งในเชิงปริมาณหรือเชิงคุณภาพของสถานการณ์หรือปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ณ ที่ใดที่หนึ่ง เป็นการนำข้อมูลหรือตัวแปรหรือข้อความจริงมาสัมพันธ์กันเพื่อให้เกิดคุณค่าหรือคุณค่าที่สามารถชี้ให้เห็นลักษณะของสภาพการณ์นั้น ๆ (ผดุงชัย ภู่พัฒน์ 2545: 170)
        สรุปความหมายของตัวชี้วัด ได้ว่า หมายถึง สิ่งที่สามารถวัดหรือสังเกตได้เพื่อบอกสภาพทั้งในเชิงประมาณ หรือเชิงคุณภาพในประเด็นที่ต้องการประเมิน
        คุณสมบัติที่ดีของตัวชี้วัด (ผดุงชัย ภู่พัฒน์ 2545: 174)
        1) สอดคล้องกับประเด็นที่ต้องการวัด มีความตรง (validity) และมีความเที่ยง (reliability)
        2) เป็นรูปธรรม วัดหรือสังเกตได้อย่างชัดเจน
        3) มีความเชื่อถือได้และได้รับการยอมรับจากผู้เกี่ยวข้อง
        4) มีความไวต่อความแตกต่าง (sensitivity) (วัดความแตกต่างระหว่างหน่วยวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง)

        ลักษณะของตัวชี้วัดทางการศึกษา ควรมีลักษณะสำคัญ 5 ประการ คือ (เพชรา พิพัฒน์สันติกุล 2548: 235)
        1) ให้สารสนเทศเกี่ยวกับสภาพที่ศึกษาอย่างกว้าง ๆ ไม่จำเป็นต้องละเอียด แต่มีความถูกต้อง แม่นยำ
        2) มีลักษณะเป็นตัวแปรรวม สร้างขึ้นจากการรวมตัวแปรที่ให้สารสนเทศแต่ละด้าน (facet)
        3) ค่าของตัวชี้วัดแสดงถึงปริมาณและการแปลความหมายซึ่งมีการเปรียบเทียบกับเกณฑ์/มาตรฐานที่กำหนด
        4) ให้สารสนเทศ ณ จุดเวลา/ ช่วงเวลาเฉพาะ เมื่อนำตัวชี้วัดจากช่วงเวลาหลายจุดมาเทียบกัน โดยสามารถแสดงสภาพการเปลี่ยนแปลงของสิ่งที่ต้องการศึกษาได้
        5) เป็นหน่วยพื้นฐาน(units) สำหรับการพัฒนาทฤษฎีสำหรับศาสตร์ทุกสาขา

        เกณฑ์
        คำว่า "เกณฑ์" (criteria)
        พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ (ราชบัณฑิตยสถาน 2551: 99) ได้ให้ความหมายไว้ว่า หมายถึง หลักการหรือมาตรฐานที่กำหนดขึ้นเพื่อประเมินค่าเรื่องต่าง ๆ ว่ามีคุณสมบัติตามที่ต้องการหรือไม่
        หมายถึง สิ่งที่ใช้เป็นหลักสำหรับการตัดสินใจ (บุญศรี พรหมมาพันธุ์ 2551: 40)
        หมายถึง ปริมาณหรือคุณภาพขั้นต่ำที่จะยอมรับได้ของแต่ละตัวบ่งชี้ (ศิริเดช สุชีวะ (2548: 177)
        หมายถึง ระดับที่ใช้ในการตัดสินความสำเร็จของการดำเนินงานตามตัวบ่งชี้ที่กำหนด (สุวิมล ว่องวาณิช 2544: 75)
        หมายถึง หลัก หรือมาตรฐานที่ใช้ในการเลือกหรือตัดสินใจเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง (Trumble and other 2000: 492)
        สรุปได้ว่า เกณฑ์ หมายถึงข้อกำหนดที่ใช้ตัดสินคุณภาพของการดำเนินงานหรือผลประกอบการที่ได้
        คุณลักษณะของเกณฑ์การประเมินที่ดี
        1) มีความท้าทายและเป็นไป
        2) สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
        3) ได้รับการยอมรับจากฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
        (ผดุงชัย ภู่พัฒน์ 2545: 185-187, บุญศรี พรหมมาพันธุ์ และคนอื่น ๆ 2547: 99-100)          

        เกณฑ์ที่เหมาะสมควรผันแปรอยู่ระหว่างปกติวิสัย(norms) และมาตรฐาน(standard)

        โมเดลในการกำหนดเกณฑ์
        1) โมเดลความงอกงาม (growth model) เป็นการพิจารณาพัฒนาการที่เพิ่มขึ้น เช่น การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนหลังเรียนกับก่อนเรียน อาจทำได้ 2 ลักษณะคือ
            (1) คะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติหรือไม่
            (2) กำหนดช่วงคะแนนที่เพิ่มขึ้น
        2) โมเดลสัมบูรณ์ (absolute model) เป็นการกำหนดโดยหลักเหตุผล โมเดลนี้ มีอำนาจในการทำนายสูง จะใช้ความเห็นของผู้เกี่ยวข้องหรือผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้กำหนดขึ้น หรืออาจกำหนดโดยอาศัยกฎเกณฑ์
        3) โมเดลสัมพัทธ์ (relative model) เป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรมของกลุ่ม
            (1) การเปรียบเทียบกันเองภายในกลุ่ม
            (2) การเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่นที่คล้ายคลึงหรือเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม
            (3) การเปรียบเทียบกับค่าที่ทำนายไว้ (predictive criterion)
              (บางที่จำแนกเป็น 2 แบบโดยรวม โมเดลความงอกงามไว้ในโมเดลสัมพัทธ์)

            การเลือกโมเดลการกำหนดเกณฑ์การประเมินต้องให้เหมาะสม และสอดคล้องกับธรรมชาติของเป้าหมายในการประเมิน ควรพิจารณาบริบท และช่วงระยะที่ทำการประเมิน เป็นสำคัญ เช่นการประเมินผลของโครงการ ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีลักษณะเฉพาะของโครงการ ควรใช้เกณฑ์สัมบูรณ์ตามมาตรฐานการปฏิบัติของโครงการนั้น ๆ แต่การประเมินในขั้นของการสรุปผลหลังการดำเนินโครงการควรใช้เกณฑ์สัมพัทธ์เพื่อให้ทราบถึงมาตรฐานของโครงการ เมื่อเปรียบเทียบกับโครงการอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน


            การตั้งเกณฑ์สัมบูรณ์ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ไม่ได้เทียบกับใคร เป็นเกณฑ์ที่ผู้ประเมินตั้งขึ้นเองข้อพิจารณาเกี่ยวกับการตั้งเกณฑ์สัมบูรณ์มีที่มาจาก 4 แหล่งใหญ่ ๆ คือ
            1. ดูจากมาตรฐานวิชาชีพของเรื่องนั้น
            2. กำหนดจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้น
            3. กำหนดเกณฑ์จากการคาดคะเนจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา
            4. เกณฑ์ได้มาจากปกติวิสัย (norm) เช่น เกณฑ์การตัดสินระดับสติปัญญาของคน ที่วัด IQ IQ เท่าไรจึงจะแปลว่ามีความฉลาด โดยเทียบกับคนส่วนใหญ่

เทคนิคเดลไฟ